….คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อช่วงมหาลัยปิดเทอมที่ผ่านมา ดิฉันกลับบ้านที่พัทลุง แต่ก็ขออนุญาตพ่อแม่ ขอไปพักที่บ้านตาบ้านยายที่ศรีบรรพต บ้านตาบ้านยายของดิฉันมีอาณาเขตติดเขตภูเขา คือเทือกเขาบรรทัด กั้นระหว่างพัทลุงกับตรัง
บ้านตากับยายของดิฉันจึงร่มรื่นมาก และอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกเหรียงทอง เต็มไปด้วยสวนมังคุด ทุเรียน เงาะ ลองกอง สวนยาง สวนกล้วย สะตอ ลูกเนียง…..ดิฉันไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตากับยาย 2วันแรกก็ผ่านไปไม่มีอะไรตื่นเต้น แต่ในวันที่3นั้น หลังจากที่ดิฉัน ตา ยาย และหลานสาวอีกคนของตา ที่ยังเรียนอยู่มัธยม กินข้าวเย็นเรียบร้อย ก็มานั่งคุยกันที่ชานเรือนหน้าบ้าน ซึ่งก็จะเป็นแบบนี้ทุกวัน ขณะที่เรากำลังนั่งคุยกันตามประสาหลานกับตาอยู่นั้น จู่ๆก็มีคนขับรถมอเตอร์ไซค์ เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ส่งเสียงเรียกตา

“ตาหยด ตาหยด”

“เอิ้ว อยู่เด้ มีไอ่ไหรเล่า”

“ช่วยผ๊มทีต่ะครับ”

“ช่วยไหร ไหนพันพรือ”

“พ่อผ๊ม กับน้องบ่าว เข้าป่าไปหายิงสัตว์ตั้งแต่หวันเที่ยงๆ ป่านนี้2ทุ่มแล้วยังไม่หลบออกมาเหลย”

“บอกผู้ใหญ่บ้านแล้วหม้ายล่ะ”

“บอกแล้วครับ ผู้ใหญ่บอกผมให้มาบอกตา ขอให้ตาไปช่วย”

“เออๆรอแปป เอาของแปป”

…..ตาของดิฉัน ก็หันมาบอกดิฉันกันยายว่า ให้ปิดบ้านนอนไปเลยไม่ต้องรอ แล้วตาก็เดินเข้าห้อง ไป ก่อนจะเดินสะพายย่ามประจำตัวออกมา แล้วตาก็ตามชายคนที่ขับรถมา ก่อนจะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออกไปในความมืด ถ้าให้ฉันเดา คงเพราะมีคนสูญหายไปในป่าเทือกเขาบรรทัดแน่ๆ และตาก็เคยเป็นเซียนป่าแถบนี้ เลยถูกตามตัวไปช่วย ดิฉันยืนดูจนตาลับมุมโค้งหายไปในความมืด ก่อนที่เสียงของยายจะทักขึ้น

“ป่ะนุ้ย ง่วงแล้วหม้าย อินอนหรืออิแลโทรทัศน์ต่อ”

“ตาแกไปไหนละยาย”

“น่าว่ามีคนไปหลงป่า เลยต้องมาตามตาไปช่วย”

“ให้ป่าไม้กับตำรวจช่วยไม่ดีหวาเออยาย”

“เอาป่าไม้กับตำรวจมาช่วย ก็น่าว่าไม่พ้นพาตาไปอยู่ดีไว้ตอเช้าตาหลบมาค่อยถามแกแล ”

…..แล้วยายก็เดินผลุบหายเข้าไปในห้อง อย่างสบายใจ ดูยายไม่ทุกข์ร้อนใดๆเลยที่ตาต้องออกไปมืดๆค่ำๆ
ส่วนดิฉันก็หันไปนอนดูรายการโทรทัศน์กับลูกพี่ลูกน้องแทน ก่อนจะเก็บความอยากจะรู้เอาไปถามตาในวันรุ่งเช้า
……เช้านั้น ดิฉันตื่นมา ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ออกมาหน้าบ้าน เจอตานั่งลับมีดเล็กๆ ตัวมีดโค้งสวยงาม ฝักก็สลักลายแปลกๆ แต่พอดูๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน >.< ดิฉันตรงเข้าไปหาตา นั่งใกล้ๆ ตายิ้มให้แล้วก็ตั้งใจลับมีดเล่มนั้นเสียงใบมีดถูกับหินดัง เฉี๊ยบๆๆ บาดหูเข็ดฟันดีนักแล ดิฉันเลยเริ่มยิงคำถามใส่ตาทันที

“ตาๆแรกคืนตาไปไหนมาอ่า”

“มีคนขึ้นป่าแล้วลงมาไม่ได้ ตาเลยต้องไปช่วย”

“ใครอ่า แล้วตอนนี้เจอตัวแล้วยัง”

“เจอแล้ว พากันหิ้วตัวลงมาได้ตอนแค่ๆเที่ยงคืนนิ”

“แล้วไซแกได้พากันไปหลงได้อ่ะ พวกแกไม่ใช่ชาวป่าเออตา”

“เรื่องบางเรื่องมันก็พูดออกไปยาก นุ้ยเชื่อเรื่องลี้ลับในป่าในเขาหม้ายล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน นุ้ยไม่เคยได้เข้าไปในป่ากะเบอะ ตาเล่าให้ฟังมั่งต่ะว่ามันพันพรือ”

“งั้นฟังนะ”
ความเชื่อลี้ลับ เจ้าป่าเจ้าเขา และพิธีเซ่นไหว้

……แล้วตาก็เริ่มเล่าความว่า 2คนที่ขึ้นไปหลงบนเทือกเขาบรรดานั้น แกเป็นคนหากินกับป่าอยู่ถิ่นนี้และ คนบ้านป่าสมัยก่อนสืบเชื้อสายมา คนศรีบรรพตก็หากินกับป่า ล่าสัตว์ ฟันพืชบนเขา เอาไปแลกข้าวแลกปลา ในที่ลุ่ม ทีนี้เวลาเราเข้าป่านั้น ถ้าเข้าไปเดินเที่ยวเดินเล่น ก็ไม่เท่าไหร่ แค่รู้ทางก็ไปเดินเล่นได้ชิวๆ ไม่มีอะไร แต่ไอ่พวกประเภทเราๆที่เข้าไปหากิน ยิงสัตว์ เอาพืชลงมาเนี่ย ต้องทำพิธีต้องบอกต้องกล่าว ขออนุญาตกัน แล้วต้องไม่ไปลบหลู่ ท้าทาย
เชื่อกันเสมอมาว่า ในป่าในเขานั้น ล้วนมีเจ้าครอง มีผู้ปกครองดูแลอยู่

“หมายถึงเจ้าป่าเจ้าเขาหรือตา”

“ตามความเชื่อเขาก็ว่าแบบนั้น”

“แล้วตาเคยเจอมั่งหม้าย สาว่าแต่ก่อนตาเข้าป่าบ่อยๆ”

“เจ้าป่าเจ้าเขานี้ แกไม่ใช่ผีชั้นต่ำ ที่จะเที่ยวออกมาแสดงตัวให้คนเห็นง่ายๆ บริวารแกมีเยอะแยะ ส่งมาสักตนก็ทำคนขี้แตกได้แล้ว”

“แล้วบริวารของเจ้าป่าเจ้าเขานี้ เป็นยังไงล่ะตา”

“ก็พวกภูตผี นางไม้ เทพารักษ์นี้และ สมุนของเจ้าป่าเจ้าเขานี้ก็มีแบ่งเป็น2พวกเหมือนกัน เหมือนโลกมนุษย์เรานี้และมีทั้งคนดีคนเลว สังคมผีก็คงไม่ต่างกัน มีทั้งผีดีๆกับผีเลวๆ ผีที่ดีเวลาคนดีเข้าป่า ก็จะคอยคุ้มครองภัยจากสัตว์ป่าดุร้ายให้ แต่ถ้ามีคนนิสัยไม่ดี เที่ยวท่องไปในบ้านเค้าแล้วยังไปปากดี ส่วนมาก มักจะเจอผีฝ่ายเลวให้โทษเอา”

“แล้วพวกเจ้าป่าเจ้าเขา สมุนบริวารอะไรนี่แกมาจากไหนกันเยอะแยะล่ะตา “

“ตาว่าแต่เดิม เจ้าป่าเจ้าเขา แกคงเป็นเทวดาชั้นสูง ที่ได้ลงมากินตำแหน่งประจำป่าเขตนี้แหละ พออยู่ๆไป สมัยก่อน มันมีการเดินทาง เดินทัพ ของเมืองโบราณไปตีอีกเมือง ไหนจะพวกโจร พวกคอมมิวนิสต์อะไรอีกเยอะแยะ พอเดินทางผ่านป่า ก็เป็นไข้ตายมั่ง โดนสัตว์ร้ายฆ่าเอามั่ง ก็มีตายทั้งคนดีและคนเลว ตายลงไปจิตสุดท้าย ผูกติดอยู่กับป่า
คนดีก็กลายมาเป็นเทวดาชั้นต่ำขั้นเทพารักษ์ พวกวิญญาณร้ายๆก็กลายเป็นโหงพรายบ้าง นางไม้บ้าง สิงสู่อยู่ในป่าโดยเฉพาะพวกนางไม้นี้ ก็กึ่งๆระหว่างนางฟ้ากับปีศาจเหมือนกัน ไหวดีพลีถูก ก็เปิดทางเปิดโชคให้ ไปปากหมาใส่ถ้าไม่ตายก็เข่าทรุด”

“แล้วไซ 2คนนั้นแกหลงเพราะไอ่ไหรล่ะตา โดนผีเล่นงานเออ”

“ก็น่าจะพันนั้นและ”

“พันพรือล่ะตา เล่าให้นุ้ยฟังมั่ง อยากรู้นิ”

…..ตาก็เล่าว่า ตาไปที่บ้านของ2คนนั้น ฝั่งเมียกับหลาน ก็ชี้บอกว่าทั้ง2คนบอกตนเองไว้ว่าจะเข้าป่าไปหายิงสัตว์ เอาพืชป่ามาไว้กินไว้ขาย 2คนนั้นเป็นพ่อลูกกัน คนพ่อ60กว่าๆแล้วแต่ยังแข็งแรงเดินเหินสบาย คนลูกอายุ30 คว้าปืนแก๊บกระบอกยาวๆได้ ก็พากันเข้าป่าไปทางหลังบ้านเหมือนทุกครั้ง ตั้งแต่ตอนหลังเที่ยง ปกติไม่เกิน6โมงเย็นก่อนตะวันลับ ได้ไม่ได้ ก็จะพากันกลับมาแล้ว แต่หนนี้ ไปแล้วไปลับ เลยทนร้อนใจไม่ไหว ก็เที่ยวให้หลานไปบอกผู้ใหญ่ให้ช่วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *