ห่าก้อม โคตรปอบภาคอีสาน

0

ห่าก้อม โคตรปอบภาคอีสาน
ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เมื่อสมัยที่ผมอายุย่าง 20 ต้นๆ ตอนนั้นผมกำลังออกบวชกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีวิชาอาคม และลูกศิษย์ของท่านอีกสองรูป ท่านนำพวกเราธุดงค์ไปยังเส้นทางที่พวกเราเคยธุดงค์กันอยู่ทุกปี แต่ปีนี้เหมือนท่านจะพาเดินออกนอกเส้นทางไปทางเหนือแถบฝั่งเพื่อนบ้านเราพอไปถึงที่หมู่บ้านแห่งนี้…ก็มีเรื่องเกิดขึ้น เป็นที่รู้กันอยู่ว่าชาวเขาเผ่าพื้นเมืองส่วนใหญ่พวกเขาจะนับถือผีกันเยอะ อีกพวกจะนับถือศาสนาคริสต์ ส่วนที่นับถือพุทธนั้นจะมีเพียงไม่กี่ครอบครัว คือน้อยมากเมื่อพระธุดงค์มาถึง ชาวบ้านที่นับถือพุทธก็จะนิมนต์ให้เราไปปักกลดอยู่ใกล้ๆบริเวณหมู่บ้าน  นำข้าวปลาอาหารมาใส่บาตรให้ฉัน หลังจากที่ฉันกันเสร็จ ชาวบ้านที่นำของมาใส่บาตรก็พูดว่า…

“ท่านจำวัดอยู่ที่หมู่บ้านนี้นานไม่ได้นะ”
“อ้าว ทำไมถึงอยู่ได้ไม่นาน อาตมาว่าจะอยู่สัก 3-4 วันได้ไหม เพราะเดินทางมาไกลค่อนข้าง เหนื่อย จึงอยากจะปักกลดพักอยู่ตรงนี้ก่อน”
“ที่นี่มันมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้น วัวควายเป็ดไก่ในหมู่บ้านนี้มันตายอย่างไม่มีสาเหตุ”
“ตายไม่มีสาเหตุ มันตายยังไง”
“คอกของพวกเป็ดไก่วัวควาย ไม่มีร่องรอยการถูกทำลาย แต่ที่บริเวณท้องของพวกสัตว์เหล่านี้จะเป็นช่องโหว่เข้าไปเหมือนถูกกินแต่เครื่องใน”
“งั้นพาอาตมาไปดูหน่อยได้ไหม”

พอเราไปถึง จริงดั่งที่ชาวบ้านบอก บริเวณท้องของวัวมีช่องโหว่เข้าไปเท่าขนาดลูกฟุตบอล  ชาวบ้านบอกว่า เมื่อคืน…ก่อนที่คณะเราจะเดินทางถึง วัวควายแถวนี้ก็ยังอยู่กันปกติเมื่อมองดูรอบบริเวณรั้ว ก็ไม่พบรอยเท้าของสัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่จะมีร่องรอยอะไรบ้างอย่าง ซึ่งมันค่อนข้างชัดมาก เพราะว่าบริเวณคอกมันจะมีโคลนตมเยอะ มันเป็นรอยคล้ายๆเหมือนอะไรกลิ้ง เข้ามาในคอกและตรงมาที่ซากวัวหลังจากที่พระอาจารย์ดูเสร็จท่านก็ไม่ได้พูดอะไร บอกเพียงว่า อาตมาจะขอปักกลดอยู่ที่นี่สัก 3-4 วันก่อนแล้วกัน เผื่อจะช่วยอะไรพวกโยมได้คนที่นำอาหารมาถวายก็บอกว่า อย่าเลยพระคุณเจ้า ผมกลัวว่าพวกท่านจะเป็นอันตรายเสียมากกว่า พระอาจารย์ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก” หลังจากคุยกันเสร็จเราก็เดินกลับไปยังที่ปักกลดคืนแรกที่เราปักกลดอยู่หมู่บ้านแห่งนี้ ขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่ในกลด บรรยากาศโดยรอบนั้นเงียบสนิท ไม่มีทีท่าว่าฟ้าฝนจะตก แต่อยู่ดีๆก็มีลมพายุพัดเข้ามา มีลมกรรโชกแรง จนต้นไม้ใหญ่ที่ผมปักกลดอยู่ข้างๆมันเอนเหมือนจะล้มผมก็เลยแง้มกลดออกมองไปยังกลดของพระอาจารย์ เห็นท่านยกด้ามกลดขึ้นมาพนมไว้ที่มือ แล้วท่านก็หันปลายด้ามกลดออกพร้อมกับตวัดไปมา 3 ครั้งหลังจากที่พระอาจารย์ท่านตวัดกลดเสร็จ จู่ๆก็มีเสียงคล้ายๆคนใหญ่ร้องดัง โอ่ย โอ่ย ณ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเสียงของอะไร อาจจะเป็นเสียงลมที่มันพัดผ่านช่องไม้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สักพักเสียงนั้นมันก็เงียบไปหลังจากที่พระอาจารย์ท่านตวัดกลดเสร็จ จู่ๆก็มีเสียงคล้ายๆคนใหญ่ร้องดัง โอ่ย โอ่ย ณ ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเสียงของอะไร อาจจะเป็นเสียงลมที่มันพัดผ่านช่องไม้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สักพักเสียงนั้นมันก็เงียบไปพระอาจารย์ท่านพูดรอดกลดออกมาว่า คืนนี้ให้นั่งทำสมาธิอยู่ในกลด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกมา  แล้วท่านก็เดินมาเอาปลายด้ามกลดขีดเป็นวงรอบๆกลดของผมและพระลูกศิษย์อีก 2 ลูก เสร็จแล้วทักก็กลับไปนั่งที่กลดของตัวเอง คืนนั้นก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีใครเจออะไรจนกระทั่งรุ่งเช้า ได้มีชาวบ้านกลุ่มเดิมนำอาหารมาถวาย แต่คนที่บอกพระอาจารย์ว่า อย่าพักที่นี้เลย เค้าไม่ได้มาด้วย ผมสังเกตว่าชาวบ้านที่เอากับข้าวมาถวายมีสีหน้าแปลกๆ เหมือนกังวลอะไรสักอย่าง หลังจากฉันเสร็จพระอาจารย์ก็เลยถามว่า “คนที่มาถวายเช้าถวายเพลเมื่อวานนี้ไปไหน ทำไมไม่มา” ทุกคนก็เลยพูดขึ้นมาว่า… “อยู่ ๆ แกก็ปวดท้องขึ้นมา ปวดหนักมาก  แกเลยมาด้วยไม่ได้” พระอาจารย์ก็เลยบอกว่าหลังทำกิจเสร็จจะไปเยี่ยม…
Thai Ghost | EP2. ผีปอบ และ ผีปอบจ้าว (ห่าก้อม) ราชันย์แห่งผีปอบ | Bearry Ghost [Remake]
พอไปถึงเราก็เดินขึ้นไปข้างบนบ้าน เพียงแค่พระอาจารย์ก้าวเท้าขึ้นบันได คนที่อยู่ข้างบนบ้านก็ร้องโอ้ย ๆ ๆ ร้องเหมือนคนที่เจ็บปวดทุกข์ทรมานมาก เมื่อเห็นพระอาจารย์เขาก็ยกมือขึ้นไหว้ แล้วบอกว่า โอ้ย…ปวดมากเลย แต่พอพระอาจารย์เดินมาถึงตัวเขา อาการปวดก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยพระอาจารย์ท่านก็เลยบอกว่า อย่างนี้มันแปลก มันจะต้องมีอะไรสักอย่าง พระอาจารย์ก็เลยนั่งคุยกับชายคนนั้น จนได้ความว่า ชายคนนี้เป็นพ่อบ้านหรือผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งนี้ แล้วพระอาจารย์ก็ถามว่า โยมมีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้างไหม ผู้ใหญ่บ้านจึงเล่าให้ฟังว่า….
ก่อนที่พระอาจารย์จะธุดงค์มาถึง ประมาณ 1 เดือน มีผู้ชายเดินทางมาจากอีกหมู่บ้านหนึ่ง เพื่อจะมาสู่ขอลูกสาวของผู้ใหญ่บ้าน แต่พ่อบ้านปฏิเสธชายคนนั้นไป เพราะพ่อบ้านรู้ว่าชายคนนี้เป็นหมอผีของหมู่บ้านนั้น ไม่ว่าจะมาขอกี่ครั้งผู้ใหญ่บ้านก็ปฏิเสธกลับไปทุกครั้งครั้งสุดท้ายที่มาขอลูกสาว หลังจากที่ชายคนนี้กลับไป ในหมู่บ้านก็เริ่มเกิดเหตุการณ์แปลกๆคือ เริ่มมีวัวควาย ในหมู่บ้านค่อยๆล้มตายไปทีละตัวพระอาจารย์ก็ถามว่า “แล้วตัวพ่อบ้านเอง ได้ฝันแปลกๆบ้างไหม แล้วอาการปวดท้องนี่เป็นมานานเท่าไหร่แล้ว” พ่อบ้านบอกว่า “เป็นหลังจากที่ผู้ชายคนนี้กลับไปได้ไม่นาน แต่จะมีอาการแค่บางวัน และทุกครั้งที่มีอาการปวด พอไปเข้าห้องน้ำ ก็จะถ่ายออกมาเป็นเลือดสดๆเลย”หลังจากที่คุยกันเสร็จ พระอาจารย์ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ พอหลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ พ่อบ้านก็ยังดูปกติดีอยู่ แล้วพระอาจารย์ท่านก็บอกว่า ขอให้หมดทุกข์หมดโศกนะ แล้วก็ลาพอบ้านกลับไปจำวัตรที่กลด

คืนที่ 2 บรรยากาศก็เหมือนกับคืนแรกเลย มีลมกรรโชกแรง พระอาจารย์ก็ถอดด้ามกลดมาขีดรอบกลดขอพระแต่ละรูปเหมือนเช่นเคย พอรุ่งเช้าวันถัดมา มีชาวบ้านกลุ่มเดิมนำอาหารมาถวาย พระอาจารย์ก็สังเกตว่าพ่อบ้านไม่มาอีกแล้ว หลังจากฉันเสร็จ พระอาจารย์จึงไปเยี่ยมที่บ้านพ่อบ้านบอกกับพระอาจารย์ว่า เมื่อคืนฝันว่าผู้ชายที่เป็นหมอผีของอีกหมู่บ้านมาหา มาบอกว่า ถ้าไม่ยอมยกลูกสาวให้ กูจะกินให้หมดหมู่บ้านเลย ในมือเขาถือหัวมนุษย์มา 1 หัว พอพูดจบเขาก็โยนหัวนั้นใส่พ่อบ้าน แล้วหัวมันก็หายเข้าไปในท้องของพ่อบ้านเลยหลังจากที่พ่อบ้านเล่าให้พระอาจารย์ฟังเสร็จ พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า ห่าก้อม!! พระอาจารย์ท่านได้ทำน้ำมนต์รดให้พ่อบ้านอีกครั้ง หลังจากรดน้ำมนต์เสร็จ พ่อบ้านก็ดูปกติดีไม่มีอาการอะไรเหมือนเดิม เราก็เลยกลับมาที่กลด

ผมถามพระอาจารย์ว่าห่าก้อมคืออะไร พระอาจารย์ท่านบอกว่า ห่าก้อมคล้ายๆปอม คือคนที่เรียนวิชาแล้วผิดครู จนโดนครูทำโทษ กลายเป็นปอบ แต่เป็นปอบที่มีอาคมแก่กล้าจึงเรียกว่า ห่าก้อมชายคนที่สามารถเลี้ยงห่าก้อม แสดงว่าต้องมีวิชาอาคมแก่กล้ามากกว่าห่าก้อม ในฝันที่เขาโยนหัวให้พ่อบ้านได้น่ะ ตามตำราวิชา แสดงว่า ชายคนนี้ ต้องไปตัดเอาหัวของคนที่เป็นห่าก้อม แล้วนำไปฝากไว้ที่บันไดบ้านของเขา เพื่อที่จะสะกดห่าก้อม ข่มมัน เพื่อนำไปใช้ทำร้ายคนต่อสมัยก่อนถ้าคนที่เลี้ยงห่าก้อมต้องการเงินของบ้านคนที่มีฐานะ ก็จะปล่อยห่าก้อมไปกินตับไตไส้พุงเจ้าของบ้าน ให้เกิดอาการเจ็บปวดแล้วรักษาไม่หาย คนที่เลี้ยงห่าก้อมก็จะบอกว่า ถ้าอยากหาย เรียกเงินเรียกทองเท่าไหร่ก็ต้องให้ คนที่เลี้ยงห่าถึงจะเรียกห่าก้อมกลับ แล้วคนที่โดนห่าก้อมกินก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง

พระะอาจารย์บอก “ลำพังแค่รดน้ำมนต์มันคงไม่ไปหรอก” เพราะเวลาเรารดน้ำมนต์มันก็หนีไป พอกลางคืนมันก็กลับมาอีก พระอาจารย์เลยปรึกษากับชาวบ้านว่า “หมู่บ้านที่เราอยู่ กลับหมู่บ้านที่หมอผีคนนั้นอยู่ไกลกันไหม” ชาวบ้านก็บอกว่า “ไม่ไกล ใช้เวลาเดินไปประมาณ 1 วันถึง”

พระอาจารย์ก็เลยบอกว่า ให้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังหมู่บ้านนั้น แล้วแอบไปขุดที่ใต้บันไดของบ้านหมอผีคนนั้นดู แต่ขอให้ขุดในช่วงกลางวันนะ แล้วพระอาจารย์ท่านก็ให้ลูกนิมิตลูกเล็กๆ ขนาดเท่าลูกแก้ว ติดตัวไปกับคนที่จะทำหน้าที่ขุดใต้บันไดบ้าน ส่วนพระอาจารย์จะรออยู่ที่บ้าน

พระอาจารย์ท่านบอกต่อว่า ถ้าขุดแล้วเจอหัวห่าก้อม ให้ห่อใส่ผ้ายันต์ผืนนี้กลับมา

พอตกกลางคืนเรากำลังจำวัดอยู่ในกลด ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง อยู่ดีๆก็มีลมกระโชกแรงเหมือนคืนก่อน ๆ แต่สิ่งที่มันแปลกคือ รู้สึกได้ว่าเหมือนมีคนขย่มอยู่บนต้นไม้ที่เราปักกลดกันอยู่ ขย่มแรงถึงขนาดที่ว่ากิ่งไม้ใบไม้ร่วงลงมาเต็มพื้นเลย และมีเสียงเหมือนอะไรสักอย่างกำลังกลิ้งอยู่บนต้นไม้ แล้วสักพักมันก็ร่วงลงมากลางกองไฟที่เรานั่งปักกลดกันอยู่ จนถ่านแดงๆกระจายรอบบริเวณในความมืด ผมมองออกไปนอกกลด เห็นหัวคนเป็นผู้ชาย สิ่งที่สังเกตคือผมของมันเป็นกระจุกๆเหมือน ผมศพที่หลุดจากหัว มันอ้าปาก แล้วก็พูดว่า “กู๋ เต็ง แม็ง กี ซ่อ ลอ จั๋ว ชั่ว” พูดซ้ำไปซ้ำมาผมมองไปที่พระอาจารย์ เห็นท่านหยิบบางอย่างออกมา ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรเหมือนกัน แล้วท่านก็ขว้างมันออกมาจากในกลดโดนหัวชายคนนั้น มันร้อง โอ้กกกกก เหมือนเสียงที่เราได้ยินวันแรกในตอนที่มีพายุมาสักพักหัวนั้นมันก็กลิ้งหายลงเนินไป ทุกอย่างสงบลง ลมพายุหายไป ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกจนกระทั่งเช้าตอนเช้าพระอาจารย์แล้วพวกเราก็เดินทางไปหาพ่อบ้าน ถามพ่อบ้านว่าอาการปวดท้องยังเป็นอยู่ไหม พ่อบ้านบอกว่าไม่มีอาการปวดท้องแล้ว แต่เมื่อคืน เป็ดไก่ในหมู่บ้านถูกกินเครื่องในอีกแล้ว สิ่งที่แปลกอีกอย่างคือมีรอยกลิ้งบริเวณรอบรั้วเป็ดไก่ชาวบ้านจนประมาณช่วงรอฉันเพล กลุ่มผู้ชายที่พระอาจารย์ให้เดินทางไปอีกหมู่บ้าน ก็เดินทางกลับมาพร้อมกับหัวคน เมื่อเปิดผ้ายันต์ออกมามันเป็นลักษณะหัวผู้ชายแห้งจนหนังติดกระดูก ผมเป็นหลุดกระจุก ตาลึกโบ๋ แต่สิ่งที่แปลกจากซากศพปกติ คือที่บริเวณปากและฟันมีคราบเลือดที่ยังดูสดอยู่ มีขนไก่ขนเป็ดติดอยู่พ่อพระอาจารย์ท่านฉันเพลเสร็จ ท่านก็ทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์ พร้อมกับใช้ลูกนิมิตที่ให้ชาวบ้านติดตัวไป  มาใส่ลงในขันน้ำมนต์

ผมได้ถามกับคนที่ไปขุดว่า ไปถึงแล้วเจอเลยหรอ คนที่ไปขุดบอกว่า ตอนไปถึงหายังไงก็หาไม่เจอ ก็เลยหยิบลูกนิมิตที่พระอาจารย์ให้มาพนมมือขึ้นเหนือหัว และบอกว่าขออำนาจครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ข้าเจอด้วยเถิด อยู่ๆลูกนิมิตก็หลุดร่วงลงจากมือกลิ้งไปตรงบริเวณใต้บันได ไปหยุดอยู่ตรงโอ่งน้ำ ก็เลยพากันไปขุดตรงนั้น ปรากฏว่าเจอหัวจริงๆ จึงสามารถเอากลับมาได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *