ต้องบอกเลยว่าสัปดาห์นี้สยองไม่แพ้กันแน่นอนครับผม บอกเลยว่าน่าสนใจพอสมควรเลยเพราะหัวข้อนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องของคุณไสยมนต์ดำ ตำนานที่เขาว่ากันว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่แล้วหรือว่าหลายร้อยปีที่แล้ว เล่าต่อๆ กันมาเป็นรุ่นสู่รุ่นเลย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่หนึ่งคนในครอบครัวนี้โดนทำของใส่จากเพื่อนสนิทที่เคยแอบชอบกันในสมัยตอนวัยรุ่น สุดท้ายแล้วโดนจอมขมังเวทย์ส่งของกลับไปจนทำให้ของเนี่ยเข้าสู่ตัวเองและทำให้คณุคนนี้ถึงกับเสียชีวิตไปเลยก็ว่าได้ครับ เรื่องราวในวันนี้ชื่อว่าคุณไสยคืนสนอง โปรดใช้วิจารณญาณใน การอ่าน/รับสาร กันด้วยนะครับ
สำหรับคุณไสยหรือว่าอาคมมนต์ดำ ไม่แน่ใจว่าคนในยุคปัจจุบันหรือเด็กในยุคเจนใหม่นี้จะรู้จักกันหรือเปล่า แต่ถ้าหากให้พูดถึงเรื่องคุณไสยมนต์ดำในเจนของผมนั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจเลยก็ว่าได้ สำหรับอาคมมนต์ดำนั้นถ้าให้อธิบายสั้นๆเลย เปรียบเสมือนเป็นพลังที่อยู่เหนือกาลธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับภูตผีวิญญาณ ของพวกนี้ก็เปรียบเสมือนพลังในรูปแบบหนึ่ง หากใช้ในทางที่ดีช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากเขาจะเรียกกันว่ามนต์สายขาว หากใช้ในเรื่องที่แย่/ชั่ว/สาปแช่งคนอื่นเขาจะเรียกกันว่า คุณไสยหรือมนต์สายดำ ซึ่งตรงนี้ในประเทศไทยสมัยก่อนโด่งดังในเรื่องนี้มากๆ ทำคุณไสยมนต์สายขาวนั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีคนพูดถึง หากพูดให้เข้าใจง่ายๆมันคือการนั่งทำสมาธิสวดมนต์ปฏิบัติธรรม สวดขอพร สวดภาวนาให้มันเกิดสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเรา ส่วนด้านของมนสายดำ จะมีเครื่องรางของขลังที่ผนึกภูตผีวิญญาณเอาไว้ เอาไว้สาปแช่งเอาไว้โจมตีหรือส่งภูตผีเหล่านั้นไปทำร้าย คนๆนั้นให้เกิดเรื่องร้ายๆก็เป็นได้ มันไม่ดีทั้งคนที่ไปสาปแช่ง และไม่ดีสำหรับคนที่เรียกใช้ด้วย เพราะหากคนที่เป็นเจ้าของมันควบคุมมันไม่อยู่จิตอ่อนจิตหลุดทำให้มนต์สายดำนั้นย้อนกลับเข้าตัวเองทำให้เสียสติหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้
ในอดีตกาลเมื่อหลาย 10 ปีหรือหลักร้อยปีที่แล้ว มีครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ การแพทย์ตรงนี้เป็นการแพทย์ทางโบราณ เป็นแนวๆแพทย์แผนโบราณใช้สมุนไพรในการรักษา ไม่ได้เหมือนกับปัจจุบันที่มีการใช้ยาปฏิชีวนะหรือมีอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย พูดตรงๆก็คือเป็นหมอแผนไทยโบราณนั่นเอง ครอบครัวหมอแผนไทยครอบครัวนี้ประกอบไปด้วย 4 คน 1 หมอสงฆ์เป็นหมอประจำบ้าน 2 เป็นภรรยาเธอชื่อบัว แล้ว 3 กับ 4 เป็นพ่อกับแม่ของบัวนั่นเอง แน่นอนว่าการที่หมอสงฆ์นั้นเป็นหมอและได้ช่วยชีวิตผู้คนในหมู่บ้านมากมาย คนในหมู่บ้านจึงนับถือและยกย่องเชิดชูหมอสงฆ์กันอย่างล้นหลาม แต่ทว่า ต่อให้หมอสงค์จะรักษาคนไปมากมายเท่าไหร่ก็แล้วแต่แต่จะมีอยู่ 1 คน ที่เขาไม่สามารถรักษาให้หายได้นั่นก็คือ คนในครอบครัวของเขาหรือก็คือภรรยาที่ชื่อบัวของเขานั่นเอง เดิมทีแต่แรกนั้นบัวก็เป็นคนปกติธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหน แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งเมื่อหมอส่งได้แต่งงานกับบัวไปแล้วนั้น จู่ๆ บัวนั้นก็เริ่มมีอาการป่วยอิดๆอ่อนๆ จนถึงปัจจุบันนี้บัวก็ได้ป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และไม่สามารถบอกได้ว่าโรคนั้นคือโรคอะไรกันแน่ โดยโรคๆ นั้นที่บัวเป็นเขาตีความกันว่า โรคน้ำตาเป็นเลือดนั่นเอง โลกนี้เป็นโรคที่แปลกมากเพราะบัวที่เป็นภรรยาของหมอสงฆ์นั้นเธอจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จะร้องไห้ทุกเวลาเช้ากลางวันเย็นและทุกครั้งที่น้ำตาเธอไหลออกมานั้นก็จะมีเลือดปนออกมาด้วย ซึ่งในยุคสมัยนั้นเป็นโลกที่น่ากลัวและไม่สามารถหาวิธีรักษาได้ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรที่มาที่ไปคืออะไรที่ทำให้เลือดมันไหลออกมาจากดวงตา ซึ่งโลกนี้ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับบัวหรือพยาบาลของหมอสงค์เป็นอย่างมาก
หมอสงฆ์นั้นก็ทุกข์ทรมานไม่ต่างกันเขาทั้งพยายามหาวิธีรักษาหาวิธีปรุงยาสมุนไพรต่างๆเพื่อมารักษาภรรยาของเขา แต่ความพยายามของเขาก็ไม่เป็นผลเขาไม่สามารถหายาหรือวิธีการมารักษาพยานของเขาได้เลย สุดท้ายแล้วแม่ของบัวก็ทักว่า บัวลูกสาวของตนนั้นจะเป็นไปได้ไหมจะโดนของคุณไสยมนต์ดำ แนะนำให้ไปหาพระดูเผื่อท่านจะช่วยเหลือได้ พึ่งทางโลกไม่ได้ก็คงจะต้องพึ่งทางธรรม หมอส่งจึงได้เดินทางไปหาพระ แต่ในขณะที่หมอส่งไปหาพระนั้นยังไม่ทันจะได้ พูดคุยเรื่องราวต่างๆให้พระท่านฟังเลย พระท่านก็ทักขึ้นมาเลยว่า..
“คนในครอบครัวของเองกำลังโดนของอยู่ เพราะของสิ่งนั้นมันมีกลิ่นติดตัวเองมาเป็นวิชามนต์ดำที่ชั่วร้าย” วิชาอาคมมนต์ดำเป็นเรื่องที่พระก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์และมันก็เหนือความสามารถของพระองค์นี้ คนที่ทำของใส่บัวเป็นคนที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า และอาจจะเป็นจอมขมังเวทย์แห่งศาสตร์มืดก็ว่าได้ ซึ่งพระรูปนี้ก็ได้บอกกับหมอสงตรงๆว่าท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้ ท่านช่วยได้แค่ให้น้ำมนต์กลับไปให้บัวดื่มหรืออาบเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดทางจิตใจได้บ้าง หมอสงค์ได้รับทราบตามที่พระท่านบอกก็ยินดีที่จะรับน้ำมนต์มาเผื่อจะช่วยอาการของบัวให้ทุเลาลงบ้าง ถึงจะช่วยไม่ได้ 100% แต่หากน้ำมนต์จะช่วยให้เธอเจ็บปวดน้อยลงก็ยังดี...